Home » blog » ขอบเขตของระบบบริหารงานคุณภาพ ใน iso 9001:2015
  • ขอบเขตของระบบบริหารงานคุณภาพ ใน iso 9001:2015

    จากที่ได้มีการประกาศใช้ iso 9001:2015 ทาง isoezy จึงเรียบเรียงให้ท่านทราบว่า คุณจะกำหนดขอบเขตของระบบบริหารงานคุณภาพ อย่างไรค่ะ

    การกำหนดขอบเขตระบบคุณภาพ ( Scope ) ในระบบบริหารงานคุณภาพใน iso 9001:2015  มีมาแล้วตั้งแต่ Version ก่อนๆ โดยขอบเขตระบบบริหารงานคุณภาพ นั้นเป็นส่วนสำคัญใร คู่มือคุณภาพ ( Quality Manual ) ในการระบุถึง ที่อยู่ กระบวนการต่างๆ การทำงานที่เกี่ยวข้องกับองค์กรในส่วนที่ต้องการขอการรับรอง และ ยังเป็นส่วนที่สามารถ ระบุ การยกเว้นข้อกำหนด ในขอบเขตนี้อีกด้วย โดยข้อกำหนดเรื่อง scope ในข้อกำหนดใหม่ของ iso 9001:2015 ที่เพิ่งประกาศใช้นั้น แม้ว่าทางข้อกำหนด iso 9001:2015 จะตัดการใช้คู่มือคุณภาพ ก็ตาม องค์กรยังคงต้อง ระบุขอบเขตทางกายภาพ ( boundary ) และ ของเขตของกระบวนการในระบบบริหารคุณภาพ ( scope ) รวมถึงองค์กรจะต้องพิจารณา ขอบเขตเพิ่มเติมขึ้นมา อีกด้วยค่ะ

    ลองมาดูกันนะคะว่า ในข้อกำหนด iso 9001:2015 ว่า กล่าวถึงขอบเขตอย่างไรบ้าง ?

    ในข้อกำหนด 4.3 การพิจารณาขอบเขตของระบบบริหารคุณภาพ

    ในข้อกำหนด ได้ให้รายละเอียดว่า องค์กรต้อง พิจารณา ขอบเขตทางกายภาพ ( Boundaries ) และ การประยุกต์ใช้ระบบบริหารคุณภาพที่ได้จัดทำขึ้น ตามที่กำหนดใน ขอบเขตของกระบวนการ  ( Scope )

    เมื่อจะกำหนดขอบเขตองค์กร ต้อง พิจารณา เรื่องต่างๆ  ตามนี้ค่ะ

    1. มุมมองภายนอกและ ภายใน จากข้อ 4.1

    2. ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จากข้อ 4.2

    3. ผลิตภัณฑ์และบริการขององค์กร

    โดยองค์กรต้อง ประยุกต์ใช้ข้อกำหนดทั้งหมดในมาตรฐานฉบับนี้ หากสามารถประยุกต์ใช้ได้ในขอบเขตของระบบบริหารงานคุณภาพ โดยจัดทำเป็น ข้อมูลทางด้านเอกสาร และ หากไม่ประยุกต์ใช้ หรือ ไม่สามารถประยุกต์ใช้ได้เพราะไม่มีกิจกรรม  หรือ กระบวนการที่เกี่ยวข้อง ต้อง ให้เหตุผลว่าทำไมจึงไม่ขอประยุกต์ใช้ข้อกำหนดใดๆ ในมาตรฐานฉบับนี้ อย่างไรก็ตาม การไม่ขอประยุกต์ใช้ข้อกำหนด ต้องไม่มีผลกระทบต่อความสอกคล้องของ ผลิตภัณฑ์และบริการ ที่อาจมีผลต่อความพึงพอใจลูกค้า ค่ะ

    แล้วจะประยุกต์ใช้ข้อกำหนดนี้ อย่างไรในองค์กรของคุณ ?

    isoezy แนะนำว่าควรจะมีการ revise scope เดิมให้ตรงกับข้อกำหนด iso 9001:2015 นะคะ ถือว่าเป็นการเปลี่ยนขอบเขตให้ทันสมัยขึ้นค่ะ

    ในทางปฏิบัติทั่วไปก็คงต้องระบุขอบเขตทางกายภาพ และ กระบวนการให้คลอบคลุมกับองค์กรของคุณก่อนค่ะ หลังจากนั้นก็ระบุถึงข้อกำหนดที่ต้องการยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นทางกายภาพ หรือ กระบวนการ เช่น องค์กรหรือ มีหลายกระบวนการผลิตในโรงงานเดียวกันค่ะ

    เช่น หาก องค์กรของคุณ เป็นโรงงานประกอบรถยนต์ มีทั้งหมด 3 line การผลิต line ที่ 1 และ 2 ได้ รับการรับรอง TS 16949 ไปแล้ว ซึ่งได้รวมระบบบริหารคุณภาพไปแล้ว หากคุณต้องการของการรับรอง ISO 9001 เฉพาะ Line 3 ก็สามารถระบุไปในขอบเขตได้ เป็นต้น

    หรือหากองค์กรของคุณ มีหลายที่ หลายโรงงาน การระบุขอบเขตทางกายภาพที่จะขอการรับรอง และ ต้องมีต้องระบุขอบเขตทางกระบวนการใช้ชัดเจนพอที่จะเข้าใจได้ว่าโรงงานในแต่ละทีของคุณดำเนินงานอะไรอยู่บ้าง มีผลิตภัณฑ์ และบริการอะไรบ้าง อยู่ที่ไหน? แล้วก็ให้เขียน มุมมองภายนอกและ ภายใน จากข้อ ข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จากข้อ 4.2 และ ผลิตภัณฑ์และบริการขององค์กรค่ะ

    หากมีหลายโรงงาน หรือ ต้องการรับรองแบบ หลายแห่ง Multi site ก็ให้ระบุ ขอบเขตทางกายภาพและกระบวนการ ลงไปในแต่และที่ เพื่อให้ชัดเจนและทราบว่าในแต่ละที่ทำธุรกิจ ( ดำเนินการอะไรบ้าง ) ค่ะ ตัวอย่างเช่น

    * ขอบเขตระบบบริหารคุณภาพตาม  iso 9001:2015 ต้อง ถูกเขียนเป็นข้อมูลทางเอกสาร

    บริษัท ABC ตั้งอยู่ที่ … เป็นสำนักงานขาย ของ บริษัท ABC และ โรงงานในเครือ

    โรงงาน ABC1 ตั้งอยู่ที่ …. เป็นโรงงานผลิตขวดบรรุภัณฑ์พลาสติก

    โรงงาน ABC2 ตั้งอยู่ที่ …. เป็นโรงงานผลิตขวดบรรุภัณฑ์พลาสติก  และ บริการรับ ฉีดพลาสติก

    โดยทุกที่ ไม่ประยุกต์ใช้ ข้อกำหนด 8.3 เรื่องการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ

    www.isoezy.com